พันตำรวจเอกศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโลยี (บก.ปอท) ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ข้อมูลความคืบหน้าคดีของ พันตำรวจโทวสวัตติ์ มุครสกุล หรือ สารวัตรซัว ที่ถูกพาดพิงว่า เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง อันดับ 1

ว่าหลังจาก วันที่ 3 มี.ค.ตำรวจได้ปฏิบัติการตรวจค้น 63 จุด เครือข่ายสารวัตรซัว มีการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องในคดีกว่า 1,400 ล้านบาท และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 คน

จากนั้น กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ดำเนินการต่อเนื่อง โดยประชุมติดตามความคืบหน้าคดี สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง อย่างเมื่อวานนี้ 23 มี.ค. ตอน 06.00 น. ตำรวจกองปราบปรามได้ปฎิบัติการตรวจค้นเครือข่ายสารวัตรซัวรอบที่สอง รวม 9 จุด ในพื้นที่กรุงเทพ และจังหวัดจันทบุรี สามารถตรวจยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป โทรศัพท์เคลื่อนที่ และบัญชีธนาคารได้บางส่วน นอกจากนั้นได้เชิญบุคคลที่คาดว่า มีส่วนเกี่ยวข้องมาสอบสวน ซึ่งอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน

ในส่วนของกลุ่มคนกว่า 150 คนและ 60 บริษัท ที่ตำรวจพบว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสารวัตรซัว ล่าสุดได้จำกัดการสืบสวนแคบลงมา พบบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องใกล้ชิดสารวัตรซัว 20-30 คน ในลักษณะเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทต่างๆ หรือถือหุ้นไขว้ พบพิรุธว่ากลุ่มคนจำนวนนี้บางคนมีรายได้ไม่มาก แต่กลับมีการครอบครองทรัพย์สินทั้ง รถยนต์และอสังหาริมทรัพย์ จำนวนมากผิดปกติ

และจากการตรวจสอบข้อมูลจากบัญชีธนาคาร เงินสกุลดิจิตอล ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการเสียภาษีของกลุ่มคนเหล่านี้ พบความเชื่อมโยงว่าอาจเข้าข่ายกระทำความผิดในเครือข่าย ซึ่งระหว่างนี้ก็กำลังอยู่ในการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีเอาผิด

เมื่อสอบถามว่าในจำนวน 20 – 30 คน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกว่า มีทั้งบุคคลธรรมดาและตำรวจ เมื่อถามว่าเกี่ยวข้องในฐานะผู้กระทำความผิดหรือผู้ต้องสงสัยหรือไม่ บอกว่ายังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ

ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยอมรับว่า รับเงินจากสารวัตรซัว 6 ล้านบาทนั้น จะเข้าข่ายฟอกเงินพนันออนไลน์ด้วยหรือไม่ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกว่าต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งว่าที่มาของเงินได้มาจากอะไร หากได้มาจากการกระทำความผิดกฎหมายก็จะสุ่มเสี่ยง

ส่วนนายตำรวจยศนายพล อักษรย่อ อ.และป. ที่ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด อ้างว่าเป็นคนนำเงินมาให้นายชูวิทย์นั้น เบื้องต้นบอกว่ายังไม่มีข้อมูลว่าคือใคร เพราะทางทนายษิทรา ยังไม่ได้ส่งข้อมูลมาให้ตรวจสอบ รวมถึงเรื่องเงินสกุลดิจิตอล 50 ล้านบาท ก็ยังไม่ได้ส่งข้อมูลมาให้กับตำรวจแต่ถ้าหลังจากนี้มีการส่งข้อมูลมาให้ตรวจสอบก็ยินดีดำเนินการให้